กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย แจ้งข่าวว่า ในช่วงปลายปี 2563 บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนชาวไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง และเหตุการณ์ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มบริษัท ฮอนด้าในประเทศไทย เดินหน้าพัฒนา และผลิต หน้ากากแรงดันลบ และบวก ซึ่งเป็นหน้ากากที่ใช้สวมใส่เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ และแพร่เชื้อโควิด-19 ที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ 2 รูปแบบ
ทั้งสำหรับผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งได้พัฒนาต่อยอดจากเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบแรงดันลบ ที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ได้ผลิต และส่งมอบไปยัง 96 โรงพยาบาลทั่วประเทศไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2563 โดยครั้งนี้ กองทุนฮอนด้าฯ จะทำการผลิต และบริจาคหน้ากากแรงดันลบ และบวก จำนวน 1,000 ชิ้น พร้อมเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้า จำนวน 100 ตัว รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท โดยจะเตรียมส่งมอบให้แก่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า หลังจากที่กองทุนฮอนด้าฯ ได้ทำการผลิต และส่งมอบเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบแรงดันลบไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งที่ทีมวิศวกรของฮอนด้าทีมเดิมไม่หยุดนิ่ง แต่ได้ริเริ่มคิดต่อยอด และนำเสนอโครงการใหม่กับทางกองทุนฮอนด้าฯ โดยใช้เวลาสร้างสรรค์ต้นแบบและพัฒนารวม 4 เดือน สู่นวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบ และบวก ซึ่งเป็นอุปกรณ์การแพทย์ที่ป้องกันการติดเชื้อ และแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยีฟิลเตอร์ HEPA ระดับ H14 ที่สามารถกรองได้ละเอียดถึง 0.3 ไมครอน และระบบ Microcontroller ในการควบคุมความเร็วของพัดลมมาใช้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังเลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีน้ำหนักเบา และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 4 - 6 ชั่วโมง โดยนวัตกรรมนี้ จะถูกผลิตขึ้น ณ โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ทันกับการใช้งานจริงในสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และคนไทย ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน
ผศ.นพ.อนุแสง จิตสมเกษม รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เปิดเผยว่าหน้ากากแรงดันลบ และบวก ที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ดำเนินการพัฒนา และผลิตขึ้นมา ผ่านการทดสอบมาตรฐานของอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดยหน้ากากฯ นี้ สามารถปรับความดันได้ทั้งแบบบวก และลบ ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในครั้งนี้ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความต้องการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เพื่อป้องกัน และลดความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งหน้ากากแรงดันบวก หรือ PAPR (Power Air Purifying Respirator) เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดหรือผู้ป่วยทางเดินหายใจอื่นๆ ซึ่งปัจจุบัน ในประเทศไทยมีรวมกันไม่ถึง 5,000 ชิ้น ดังนั้น หน้ากากฯ ที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ได้พัฒนาและผลิตขึ้นมา จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยมีความพิเศษตรงที่ยังสามารถปรับความดันให้เป็นลบเพื่อใช้สำหรับขนย้ายผู้ป่วยได้ ซึ่งจะเป็นมิติใหม่ของการรักษา
ทั้งนี้ เมื่อเดือน พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มบริษัท ฮอนด้าในประเทศไทย รวมทั้งเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทย ต้านภัยโควิด-19 โดยได้ดำเนินการผลิต และส่งมอบเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบแรงดันลบ (Negative Pressure Mobile Bed) จำนวน 100 เตียง และได้ส่งมอบร่วมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ให้แก่โรงพยาบาล 96 แห่งทั่วประเทศ รวมมูลค่า 40 ล้านบาท ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศไปแล้วนั้น และเมื่อผนวกรวมกับครั้งนี้ หน้ากากแรงดันลบและบวกป้องกันโควิด-19 จำนวน 1,000 ชิ้น จะถูกผลิต และนำไปบริจาคพร้อมกับเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ 100 ตัว รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ที่จะส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เมื่อรวมความช่วยเหลือที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ได้มอบให้แก่สังคมไทยเพื่อร่วมต้านภัยโควิด-19 รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 80 ล้านบาท
โดยลูกค้าผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ล้วนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมในครั้งนี้ ผ่านการสมทบทุนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ ทางกองทุนฮอนด้าฯ พร้อมอยู่เคียงข้างคนไทย และให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อให้สังคมไทยผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปได้ด้วยดีอีกครั้ง และจะไม่หยุดการพัฒนาที่มอบประโยชน์สุขให้กับคนไทย ดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการสร้างสรรค์คุณค่าเพื่อเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป