บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งข่าวว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำจุดยืนในการนำเสนอการออกแบบประสบการณ์ สมรรถนะของรถยนต์ที่อัดแน่นไปด้วยความหลงใหล พร้อมความยั่งยืน ผ่านวิดีโอที่เล่าเรื่องของ 3 ผู้นำทางความคิด (Key Opinion Leaders: KOLs) ผู้เป็นตัวแทนของ 3 จุดยืนดังกล่าว ได้แก่ พล หุยประเสริฐ นักออกแบบประสบการณ์ผู้ผสมผสานดีไซน์ และนวัตกรรม พลอย ปิ่นแสง นักกีฬาโปโลทีมชาติผู้มุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และต้น บดินทร์ พลางกูร สถาปนิกและนักออกแบบภายในที่ใช้ธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน
มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จุดยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในเรื่องของการนำเสนอนวัตกรรมการออกแบบที่มีความโดดเด่น สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ควบคู่ไปกับความยั่งยืนนั้นเป็นสิ่งที่ชัดเจนในใจผู้บริโภคอยู่แล้ว และการเลือกบุคคลที่มีความโดดเด่นทั้ง 3 ท่านนี้มาเป็นตัวแทนของจุดยืนของเราก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในทุกๆ ด้าน ทั้งการเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมภายใต้ประสบการณ์การออกแบบที่น่าจดจำและน่าตื่นเต้น สามารถสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับผู้คน การตอบสนองความต้องการของลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยโซลูชันที่ผลักดันให้ทุกคนไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างราบรื่น และการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านจุดยืนด้านการมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรมที่มีความยั่งยืน ทั้งหมดนี้คือการตอกย้ำความตั้งใจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่จะให้ความสำคัญกับ 3 จุดยืนนี้ทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ KOL ทั้ง 3 ท่านและหวังว่าแคมเปญนี้จะช่วยประกายและเติมเต็มแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า พร้อมทั้งช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงเป็นแบรนด์ลักชัวรีอันดับ 1 ที่ตอบสนองความต้องการของทุกท่านได้”
คุณพล หุยประเสริฐ นักออกแบบประสบการณ์ผู้ทำงานออกแบบหลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะคอนเสิร์ตที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้ชม บอกว่า “งานของผมคืองานออกแบบประสบการณ์ โดยใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสให้คนได้รู้สึก มีส่วนร่วม และได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ๆ ได้มาสัมผัสบรรยากาศไม่ว่าจะเป็นความสุข เศร้า ตื่นเต้น และความสนุก เมื่อผมได้ฟังเรื่องราวของรถยนต์รุ่น The new C-Class ที่ออกแบบมาจากแนวคิดเกี่ยวกับประสบการณ์ พฤติกรรมของผู้ขับขี่ และการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการนำเสนอ ดึงดูดความสนใจ และเข้าถึงความรู้สึกและความต้องการ ไม่ว่าปลายทางจะเป็นการออกแบบคอนเสิร์ตหรือดีไซน์รถยนต์ สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญคือการสร้างประสบการณ์ทีดีให้กับผู้ใช้ ผมดีใจที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดโอกาสให้ผมเป็นตัวแทนการนำเสนอแนวคิดจากการทำความเข้าใจในพฤติกรรมและความต้องการของมนุษย์ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังร่วมทำโปรเจกต์ออกแบบประสบการณ์พิเศษใหม่ร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ อยากให้ติดตามกันครับ”
คุณพลอย ปิ่นแสง นักกีฬาโปโลทีมชาติผู้มุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง กล่าวว่า “พลอยบอกตัวเองเสมอว่า ถ้าเราเชื่อและเรามี passion กับสิ่งไหนแล้ว เราจะทำสิ่ง ๆ นั้นได้ดี ดังนั้นพลอยจะตั้งใจมาก ๆ ทุ่มเทและเต็มที่กับสิ่งที่ทำ ทำให้สุด ใส่ให้เต็มร้อย เรียกว่า Go Hard or Go Home เราจะทำได้ดี ทำได้มาก หรือไปได้แค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งหมด นี่คือพลังผลักดันและขับเคลื่อนตัวเราให้มุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าถึงจุดมุ่งหมาย สำหรับพลอย รถยนต์ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe Special EDITION ที่พลอยได้เห็นครั้งแรก แค่ดีไซน์ก็คงไม่ต้องบรรยายแล้ว พอได้ฟังและได้สัมผัสถึงพลังของเครื่องยนต์ แค่เสียงและฟีเจอร์แบบเข้ม ๆ นี้ passion ของพลอยก็มาเต็มเลยค่ะ อยากจะลองขับและพุ่งไปข้างหน้าเพื่อไปยังจุดหมายด้วยกัน รถยนต์คันนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาที่พลอยได้ขี่ม้า ได้สัมผัสถีงพลังของรถ เหมือนต้องการคนขับที่พร้อมจะใส่พลังแล้วออกไปสุดด้วยกัน อยากให้ทุกคนมาลองประสบการณ์กับรถยนต์คันนี้ ได้ลองขับ แล้วก็จะเข้าใจความหมายเกี่ยวกับ Performance ที่พลอยพูดถึงค่ะ”
คุณต้น บดินทร์ พลางกูร สถาปนิกและนักออกแบบภายในหนุ่มผู้ใช้ธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานออกแบบ พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาผสมผสานเพื่อสร้างผลงานที่มีความยั่งยืน เล่าว่า “ส่วนตัวผมเชื่อในพลังของธรรมชาติที่เป็นทั้งแหล่งสร้างแรงบันดาลใจและเป็นพื้นที่ที่ช่วยฟื้นพลังให้กับตัวเอง แนวคิดในการทำงานออกแบบของผมส่วนใหญ่มาจากการนำสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งต่าง ๆ ตามธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานดีไซน์ ส่วนเรื่องเทคโนโลยีก็เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ในปัจจุบัน ซึ่งในการออกแบบ เทคโนโลยีก็ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้เกิดประสิทธิภาพ ผมคิดว่าเราต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจความสำคัญของธรรมชาติ พร้อมไปกับการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีเพื่อให้ธรรมชาติสามารถอยู่กับเราได้อย่างยืนยาวต่อไปในอนาคต เหมือนกับวิวัฒนาการของรถยนต์ ที่ปัจจุบันมีรถยนต์ที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันและมีเทคโนโลยีไฟฟ้าให้เลือกใช้ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนเรื่องความยั่งยืนมาตลอด ไม่ว่าจะผ่านงานดีไซน์ แนวคิด หรือการใช้ชีวิตประจำวัน รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปลั๊กอินไฮบริด สำหรับผม คือส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความยั่งยืน ซึ่งเราสามารถเริ่มต้นได้จากตัวเราและสิ่งที่เราเลือก นี่คือจุดเริ่มต้นของวันพรุ่งนี้ และผมคิดว่าตอนนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับหลาย ๆ คนเลยครับ ผมกำลังมีโปรเจกต์ที่เกี่ยวกับความยั่งยืนที่ผมจะทำร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วย ฝากติดตามด้วยครับ”
การทำงานร่วมกับ KOL ทั้งสามท่านคือเครื่องยืนยันว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่มีวันหยุดนิ่งที่จะจินตนาการถึงวันพรุ่งนี้ที่ดียิ่งกว่าด้วยการสร้างสรรค์รถยนต์และนำเสนอนวัตกรรมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เป็นที่ปรารถนาและทำให้ลูกค้ามีความภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้เป็นเจ้าของออกมาอย่างต่อเนื่อง
- เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 170,000 คนทั่วโลก โดยมี โอล่า คัลเลนเนียส เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ นอกจากนั้น ยังมีเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำของโลกในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์รถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และแบรนด์ย่อย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เมอร์เซเดส-มายบัค เมอร์เซเดส-อีคิว จี-คลาส และแบรนด์สมาร์ท โดยแบรนด์เมอร์เซเดส มีนำเสนอการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับพรีเมียมรายใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2563 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 2.1 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 375,000 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตราว 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน บริษัทได้พัฒนาเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ของตัวเองทั่วโลกใน 3 ทวีป การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อกลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และต่อบริษัท สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระยะยาว ทั้งลูกค้า พนักงาน นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเดมเลอร์ ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม