การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งข่าวว่า วันนี้ (20 ตุลาคม 2563) เวลา 14.30 น. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ประธานกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform) ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยมี นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. และนายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการ กฟภ. ร่วมลงนามในสัญญา ณ ห้องประชุม 2301 ชั้น 3 อาคาร 2 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า กทพ.มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการบริหารจัดการด้วยนวัตกรรมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการด้านพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เพื่อประโยชน์ด้านการใช้พลังงานสะอาด และการบริหารจัดการพลังงานภายใน กทพ. และพื้นที่โดยรอบ โดยปัจจุบัน กทพ. มีต้นทุนส่วนใหญ่ทางด้านพลังงานไฟฟ้าทั้งในส่วนไฟฟ้าส่องสว่างทางพิเศษ อาคารด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ และศูนย์ควบคุมทางพิเศษไม่น้อยกว่าปีละ 160 ล้านบาท
ซึ่ง กทพ.ได้ถูกกำหนดให้บริหารจัดการประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-Efficiency) ที่เกี่ยวเนื่องระหว่างความรับผิดชอบทางเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม และเมื่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำเสนอ “โครงการจัดการพลังงานในองค์กรโดยระบบดิจิทัล”กทพ. มีความสนใจที่จะร่วมกันดำเนินโครงการบริหารจัดการพลังงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และการบริหารจัดการพลังงานด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform)
โดยจะร่วมกันศึกษาการพัฒนาด้านธุรกิจพลังงาน และสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดทั้งในด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้า และด้านการบริหารจัดการพลังงานเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง และปลอดภัย รวมถึงจะให้ความร่วมมือกันในการศึกษาแนวทางในการประหยัดพลังงาน โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับการใช้พลังงานของ กทพ. และจะให้การสนับสนุนเพื่อให้เกิดการลงทุน และการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงนวัตกรรมอื่นร่วมกันสำหรับการบริหารจัดการพลังงาน และพลังงานทดแทนต่อไป
กทพ. และ กฟภ. จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานตามกรอบแนวทางข้างต้นปรากฏผลบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างเป็นรูปธรรม
“การลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัลฯ ในวันนี้นับเป็นต้นแบบความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกด้านการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System) และการติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) รวมถึงการใช้ Digital Platform หรือนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อการทางพิเศษฯจะได้นำมาปรับปรุง และพัฒนาการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป”นายสุรเชษฐ์ กล่าวในท้ายที่สุด
########