ขับเที่ยวชิลล์ข้ามภาค รับพลังชีวิตเปิด Unseen 2023 สัมผัสเสน่ห์วิถีชุมชน เหนือ - อีสาน เส้นทาง เชียงใหม่ - ลำปาง-สุโขทัย-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น
Day 1 การเดินทางทริปนี้เราเริ่มจากสนามบินดอนเมืองนั่งเครื่องบินมาลงที่เชียงใหม่ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง มื้อเช้าวันแรกแวะทานกันที่ร้านโจ๊กสมเพชร จ.เชียงใหม่ ซึ่งที่นี่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารท้องถิ่น อย่างข้าวซอย รสชาติเข้มข้นอร่อย หรือจะเป็นเมนูติ๋มซำ โจ๊ก ก็รสชาติดีไม่แพ้กัน ที่สำคัญอาหารร้อนๆ และมาเสิร์ฟไวมากค่ะ ที่นั่งกว้างขวางสะดวกสบาย
จากนั้นเรานั่งรถตู้ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็เดินทางมาถึง จังหวัดลำปาง สถานที่แรกที่เราได้ไปสัมผัสก็คือ บ้านหลุยส์ ทีเลียวโนเวนส์ บ้านโบราณเรือนไม้อายุกว่าร้อยปี ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ณ ชุมชนท่ามะโอ และที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางของการค้าไม้เมืองลำปาง สำหรับเพื่อนๆที่สนใจอยากร่วมย้อนประวัติศาสตร์ ณ บ้านหลุยส์ แห่งนี้ ก็สามารถเดินทางมาได้ แถมเข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีเรื่องราวป้ายบอกประวัติอย่างละเอียดอยู่ที่หน้าอาคาร
สำหรับการเดินทางเที่ยวชุมชนท่ามะโอ ในครั้งนี้เราได้นั่งรถรางของทางชุมชนโดยจะมีพี่ปั๊พ ปราญชุมชน ที่มาเล่าเรื่องราวอย่างเจาะลึกให้ได้ทราบประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าย่านชุมชนท่ามะโอ โดยมาที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ที่มีอายุยาวนานกว่าพันปี เป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเคยเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า พระแก้วมรกตศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำปางด้วย ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีโอกาสได้มากราบสักการะบูชาก็ถือเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
จากนั้นเดินทางกราบสักการะของพรและชมความสวยงามสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่าง ไทย จีน พม่า ที่วัดปงสนุกเหนือ ซึ่งวัดแห่งนี้ ได้รับรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก้เมื่อปี 2008 และอีก 1 ไฮไลต์ของวัดแห่งนี้ คือตัววิหารนั้นได้รับการประดับด้วยพระพิมพ์องค์เล็กจำนวนมากถึง 1080 องค์ จึงเป็นที่มาของชื่อ "วิหารพันองค์"ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
เดินมาอีกนิดนึงเราก็จะมาถึงวัดปงสนุกใต้ สถาปัตยกรรมศิลปะล้านนาผสมกับพม่าและจีน และเราจะพบกลองปู่จาหลายใบ ซึ่งในอดีตกลองปู่จา จะใช้เพื่อสื่อความหมายหรือแจ้งเหตุฉุกเฉินต่างๆ
Day 3 ออกเดินทางจากพิษณุโลก ผ่านเส้นเขาค้อ และ น้ำหนาว เราก็มีแวะช้อป กระจายรายได้ กันที่ตลาดชาวเขา-เขาค้อใช้เวลาการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงการท่องเที่ยววิถีสีชมพู โดยแวะพักทานอาหารกลางวันพื้นบ้าน จากวัตถุดิบสดๆใหม่ๆของชุมชน ที่ ไร่ภัทราวรินทร์ Cafe & Camp ตั้งอยู่ชุมชนดงลาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ชุมชนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและท้องนาอันเขียวขจี ที่นี่ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงเกษตร หากใครอยากใกล้ชิดและสัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้นทางไร่ก็มีที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ ให้บริการด้วยค่ะ
หลังจากทานอาหารกันอิ่มท้อง อิ่มตา แล้ว คุณณุ ผู้นำชุมชน พาชมกิจกรรมของชุมชน ชมการหว่านแห ตกปลา ในแบบวิถีชาวบ้าน และไปต่อยัง วัดถ้ำแสงธรรม วัดนี้ มีบันไดให้ขึ้นชมวิว 360 องศา ซึ่งจุดนี้ เราจะมองเห็นเขาถึง 4 จังหวัดภาคอีสานด้วยกัน เลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น และ ชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งอันซีน(Unseen) ที่ขึ้นไปแล้วต้องร้องว้าวๆๆ กับความสวยงามของวิวทิวทัศน์และบนชั้นสูงสุดจะมีรอยพระพุทธบาทให้ได้กราบสักการะขอพรด้วยค่ะ
หลังจากเดินขึ้นลงบันได ประมาณ 1,436 ขั้น พอได้เหงื่อซึมกันแล้วเราก็เดินทางไปแช่น้ำเย็นๆ ริมลำน้ำพอง ทำงานศิลปะจากหินสี อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ตามธรรมชาติสร้างสรรค์
ได้เวลาอันสมควรเราเดินทางต่อมาที่ในเมืองขอนแก่น เย็นนี้ พวกเราฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารหน้าไม้ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมาทานข้าวบ้านญาติผู้ใหญ่ เมนูที่นี่ออกติดหวานหน่อยๆ ใครชอบรสชาตินี้ก็มาลิ้มลองกันได้ แต่ต้องจองล่วงหน้านะเพราะเจ้าของร้านทำกันอง ภรรยาทำอาหาร ส่วนคุณสามีเสิร์ฟเองจ้า
ถึงเวลาเข้าที่พัก คืนนี้ เรามานอนกันที่ Ad Lib Khon Kaen โรงแรมใหม่ระดับ 5 ดาว ไฮไลต์สุดๆ คือ สะพานกระจก (Sky Bridge) และ สระว่ายน้ำ ที่อยู่บนชั้น 28 ที่สูงสุดในขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของขอนแก่น ส่วนห้องพักนั้นมีขนาดใหญ่มีอุปกรณ์ครบครัน
หลังจากอาบน้ำพอหายเหนื่อยแล้ว เราก็ขอไปดูบรรยากาศยามค่ำคืน ที่ตลาดต้นตาล เป็นแหล่งรวบรวมร้านค้าเยอะมาก ของกินอร่อยๆแซ่บๆ เสื้อผ้า แฟชั่น หลากหลาย กินช้อปเพลินๆกันไป
Day 4 ทานอาหารเช้าสุดหรูบนวิวตึกสูงแล้ว เราก็เดินทางไปชม พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดขอนแก่น ที่พาเราย้อนเวลาไปใน"โลกของเงินตรา" ที่เชื่อมโยงทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ปิดท้ายทริปนี้ กันที่ พิพิธภัณฑ์ฑสถานแห่งชาติขอนแก่น เป็นที่รวบรวม และ จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ของภาคอีสาน โดยแบ่งการจัดแสดงเป็น 6 ห้อง ด้วยกัน ตั้งแต่ 1.สมัยก่อนประวัติศาสตร์ 2.สมัยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทวารวดี 3.วัฒนธรรมขอม 4. วัฒนธรรมล้านช้าง 5.สมัยรัตนโกสินทร์ 6.ห้องศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน
#เที่ยวข้ามภาค #Unseen 2023 #ภาคเหนือ-อีสาน #โมเมนต์ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ #เที่ยววิถีชุมชน
โพสต์
***เนื้อเรื่อง/ภาพ โพสต์โดย Pom sun