เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ทางบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมทำการทดลองขับรถ ALL-NEW MAZDA CX-30 (มาสด้า CX-30)ซึ่งเป็นยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวีที่ทางมาสด้าเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานโดยใช้เส้นทางจังหวัดพิษณุโลก-ขอนแก่นอย่างไรก็ตามมาสด้าระบุว่า การเปิดตัวรถยนต์ดังกล่าวเพื่อหวังเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้ตลาดและเตรียมก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดครอสโอเวอร์เอสยูวี โดย มาสด้า CX-30 จะเป็นสมาชิกใหม่ตระกูล CX ซีรี่ กับแนวคิด “LIFE’S ALWAYS ON เติมชีวิตให้เต็มความหมาย” สง่างามด้วยดีไซน์จาก โคโดะ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เรียบง่ายแต่งดงาม มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC PLUS เหนือระดับด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ตอบสนองดีที่สุดในคลาสด้วยกำลังสูงสุด 165 แรงม้า สัมผัสประสบการณ์ใหม่แห่งการควบคุมการขับขี่ที่แม่นยำและสมดุล ด้วยสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นไม่ถึงหนึ่งล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ALL-NEW MAZDA CX-30 มาพร้อมแนวคิด LIFE’S ALWAYS ON เติมชีวิตให้เต็มความหมาย นี่คือยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวีที่จะเข้ามาเพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของคุณพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต เพื่อออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ทุกมิติชีวิตมีคุณค่าและมีความหมายมากยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พิถีพิถันทุกรายละเอียด ดุจงานศิลปะชิ้นเอก ภายใต้แนวคิดที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม คงไว้ซึ่งความโฉบเฉี่ยวและทรงพลัง สัมผัสมุมมองใหม่ที่เหนือกว่ากับหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ตอบสนองทุกการใช้งาน มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่พัฒนาไปอีกขั้น พร้อมสมรรถนะที่มอบความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางมาสด้าเคยระบุว่าตลาดรถอเนกประสงค์เป็นตลาดใหญ่รองจากตลาดปิกอัพและรถเก๋งเล็ก โดยในปีที่ผ่านมาเซ็กเมนต์นี้มียอดขายสะสมรวมทั้งสิ้นกว่า 146,560 คัน (รวม PPV) หากแยกเฉพาะ SUV มียอดขายรวมทั้งสิ้นประมาณ 86,000 คัน ส่วนมาสด้ามียอดขายรวม 5,736 คัน ซึ่งในปี 2563 นี้ มาสด้าคาดการณ์ว่าตลาดในเซ็กเมนต์นี้จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.5 แสนคัน (รวม PPV) และที่สำคัญมาสด้าตั้งเป้าไว้สูงถึง 18,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 200% และจะส่งผลให้มาสด้าก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดในเซ็กเม้นต์นี้เช่นเดียวกับมาสด้า 2 ที่ก้าวขึ้นครองแชมป์ตลาดรถยนต์นั่งซิตี้คาร์มาแล้ว ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ดีไซน์อันงดงาม และความพิถีพิถัน เอาใจใส่ในทุกรายละเอียด มาสด้ามั่นใจอย่างยิ่งว่า All-New Mazda CX-30 จะเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศไทย ให้หันมานิยมรถประเภท Crossover SUV มากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับตลาดในหลายประเทศ
ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปี 2562 ที่ผ่านมา มียอดขายสะสมสูงถึง 1,007,000 คัน เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2561 ตัวเลขยอดรวมอยู่ที่ 1,041,000 คัน ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเพียง 3% ในขณะที่มาสด้ามียอดขายสะสมรวมทั้งสิ้น 58,129 คัน มาสด้าคาดการณ์ว่าตลาดรวมในปี 2563 จะลดลงประมาณ 5-10% มาอยู่ที่ประมาณ 920,000 – 940,000 คัน ในขณะที่มาสด้าตั้งเป้ายอดในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 60,000 คัน
ทั้งนี้มาสด้าระบุว่า แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้นตลาด แต่มาสด้าเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยยอดขายรวมสะสมปี 2563 ที่ผ่านมา 2 เดือน (มกราคมและกุมภาพันธ์) ตัวเลขรวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ (ประมาณการ) 140,000 คัน และเป็นยอดขายรถยนต์มาสด้าอยู่ที่ประมาณ 7,000 คัน และหากพิจารณายอดขายของแต่ละเซ็กเมนต์พบว่ากลุ่มรถอเนกประสงค์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยฟังก์ชันความอเนกประสงค์ของตัวรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
มาสด้าบอกกับเราว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา มาสด้าเดินหน้าลุยตลาดครอสโอเวอร์เอสยูวี ด้วยการส่ง NEW MAZDA CX-3 EXCLUSIVE MODS รุ่นตกแต่งพิเศษที่ยกระดับความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพิ่มความโดดเด่นและเป็นตัวเองให้กับผู้ขับขี่ ต่อด้วยรุ่น NEW MAZDA CX-5 ใหม่ ได้รับการยกย่องให้เป็นรถเอสยูวีที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในตลาดด้วยเครื่องยนต์ใหม่สกายแอคทีฟเบนซิน เทอร์โบ 2.5 ลิตร และได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์สำหรับครอบครัวด้วยการเผยโฉม ALL-NEW MAZDA CX-8 ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมแบบที่นั่ง 3 แถว ที่ดีที่สุดในตลาด โดดเด่นด้วยความนุ่มนวลบนพื้นฐานของรถยนต์นั่ง นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมากวาดยอดขายสะสมได้มากกว่า 1,000 คัน
และมาสด้ายังบอกว่า การเปิดตัวแนะนำ ALL-NEW MAZDA CX-30 ในวันนี้เป็นการเข้ามาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และเติมเต็มตลาดรถอเนกประสงค์ของมาสด้าที่มีวางจำหน่ายมากที่สุดถึง 4 รุ่น ประกอบด้วย CX-3, CX-30, CX-5 และ CX-8 เราต้องการให้รถยนต์มาสด้าเข้ามาเพื่อเติมเต็มวิถีการดำรงชีวิตของลูกค้า เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจในการเดินทาง ก่อเกิดเป็นความผูกพันกับแบรนด์ในระยะยาว
หนึ่งในกลยุทธ์ของมาสด้าในปี 2563 คือ การผลักดันแบรนด์สู่การเป็นผู้นำรถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่นี้จะเข้ามาเติมเต็มตระกูล CX Series ของมาสด้า ซึ่งอักษร CX แทนความเป็น SPORTS CROSSOVER ให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามมาสด้าวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ในแต่ละรุ่นไว้อย่างชัดเจน สำหรับ ALL-NEW MAZDA CX-30 กับพร้อมคอนเซ็ปต์ LIFE’S ALWAYS ON “เติมชีวิตให้เต็มความหมาย” เป็นรถยนต์ที่จะเข้ามาเพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกค้า เพื่อออกไปแสวงหาและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านของชีวิตจากบทบาทหนึ่งไปสู่อีกบทบาทหนึ่ง อาทิ จากคนโสดสู่การมีคู่ชีวิต ต่อเนื่องไปสู่การเป็นครอบครัวขนาดเล็ก ที่ใช้เวลาร่วมกันบนรถยนต์ในการออกไปค้นหาเรื่องราวใหม่ๆ ให้กับชีวิต ด้วยขนาดของ ALL-NEW MAZDA CX-30 ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 ส่งผลให้รถรุ่นนี้มีความคล่องตัวสูง มีทัศนวิสัยที่ดีตามแบบฉบับรถครอสโอเวอร์ ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาให้สมรรถนะความแรงและประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับน้ำมันได้สูงสุดถึง E85 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
ALL-NEW MAZDA CX-30 ถือเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีเจเนอเรชั่นใหม่รุ่นแรกของมาสด้าที่งดงามและโดดเด่นด้วยแนวคิดการออกแบบของ KODO: Soul of Motion ได้รับการยกระดับดีไซน์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนที่งดงาม โดยยังคงเน้นความเรียบหรูด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกสู่ห้องโดยสาร ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันรวมถึงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง เพื่อยกระดับตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์เอสยูวีของประเทศไทยด้วยความหรูหรา ความเงียบของห้องโดยสาร ความสะดวกสบายทั้งในตำแหน่งขับขี่และผู้โดยสาร รวมไปถึงความปลอดภัยตลอดการขับขี่
มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ที่พัฒนาจากท่วงท่าของมนุษย์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีสมดุล มอบความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมไปถึงผู้ใช้ถนน อีกทั้งยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ ลดการแก้พวงมาลัยน้อยลง ซึ่งจะช่วยลดความอ่อนล้าจากการขับขี่ ผู้โดยสารสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการโคลงตัวที่ลดลง
มาสด้ายังคงถ่ายทอดจุดเด่นด้านความหรูหราภายในห้องโดยสาร ด้วยการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียมคุณภาพสูง ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ภายในห้องโดยสารถูกพัฒนาตามหลักปรัชญา HUMAN CENTRIC PHILOSOPHY ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งที่ออกแบบให้โอบกระชับรองรับกับสรีระ ช่วยให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง แนวกระดูกสันหลังคงรูปตัว S เหมือนขณะกำลังเดิน พวงมาลัยและคันเร่งได้รับการจัดวางอย่างลงตัว มอบความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถ รวมถึงฟังก์ชั่นและการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถให้อยู่ในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนนเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันด้วยเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้าช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน การเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วย Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน สร้างอารมณ์สุนทรีย์ด้วยระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง สะดวกสบายตลอดเส้นทางภายในห้องโดยสารที่เงียบโปร่งสบาย พร้อมหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยเบาะหลังแบบพับได้ 60:40 แยกอิสระจากกัน และประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ALL-NEW MAZDA CX-30 มอบความปลอดภัยระดับสูงสุดด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุมากถึง 12 ระบบ
• ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 ̊ View Monitor)
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
• ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
• ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
• ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Rear Crossing)
• ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
• ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
อีกทั้งยังปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
ALL-NEW MAZDA CX-30 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย
• สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
• สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
• สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
• สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
• สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
• สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
• สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)
ราคาจำหน่าย ALL-NEW MAZDA CX-30
ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท
สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวี ALL-NEW MAZDA CX-30 สามารถจองในระบบออนไลน์ผ่าน https://skybooking.mazda.co.th/ ได้แล้ววันนี้
########