บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งข่าวว่า บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2563 ครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย (มกราคม - ธันวาคม 2563) ด้วยยอดจำหน่ายสะสมรวม 93,041 คัน(นับรวมกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้า) ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27.5%* และครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก
ได้แก่ กลุ่มซับคอมแพคท์ และอีโค ซับคอมแพคท์ กลุ่มคอมแพคท์กลุ่มซีดานขนาดกลาง (D-segment) และกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่(L-SUV) ตอกย้ำแบรนด์รถยนต์ยอดนิยมด้วยรางวัลด้านภาพลักษณ์ดีเด่น ประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ 9 ปีซ้อน จาก TAQA พร้อมเดินหน้ายกระดับการขาย และงานบริการด้วยกลยุทธ์ดิจิทัลและช่องทางออนไลน์เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์แบบ New Normal
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้า และทำให้ตลาดรถยนต์ชะลอตัวแต่ฮอนด้ายังคงได้รับความเชื่อมั่น และความไว้วางใจจากลูกค้า ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 93,041 คัน โดยมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าภาพรวมตลาดรถยนต์นั่งในปีนี้ ส่งผลให้สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วนถึง 27.5%* ซึ่งมากกว่าสัดส่วนทางการตลาดของฮอนด้าในปีก่อนหน้า
และในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ฮอนด้าได้เปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ในไลน์อัป “เดอะ ซิตี้ ซีรีส์”ได้แก่ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ และฮอนด้า ซิตี้อี:เอชอีวี ใหม่ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมด้วยยอดจองจากทั่วประเทศ รวมกว่า 5,000 คัน (24 พฤศจิกายน 2563 – 10 มกราคม2564) ในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนครึ่งนับจากการเปิดตัวโดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ซิตี้ ซีรีส์ จะเป็นยนตรกรรมที่มาขยายฐานตลาดของกลุ่มผู้บริโภคให้กว้างขึ้นซึ่งจะเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่จะได้สัมผัสความสมบูรณ์แบบด้านดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าที่เกินคลาสนี้ด้วย นอกจากนี้ ฮอนด้า ยังสามารถครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลักได้แก่
- กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ยอดจำหน่ายสะสมรวม 51,375 คัน คิดเป็น 31.1%*
• ฮอนด้า ซิตี้ ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 35,807 คัน
• ฮอนด้า แจ๊ซ ยังคงเป็นแฮทช์แบ็กที่ได้รับความนิยม ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 15,568 คัน
- กลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ ยอดจำหน่ายสะสม20,009 คัน คิดเป็น 62.1%*
• ฮอนด้า ซีวิค ยังครองความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องด้วยยอดจำหน่ายสะสม 18,249 คัน
• ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ยอดจำหน่ายสะสม 1,760 คัน
- กลุ่มรถยนต์ซีดานขนาดกลาง (D-segment) ยอดจำหน่ายสะสม5,265 คัน คิดเป็น 49.7%*
• ฮอนด้า แอคคอร์ดและแอคคอร์ด ไฮบริดยอดจำหน่ายสะสม5,265 คัน
- กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (L-SUV)ยอดจำหน่ายสะสม5,374 คัน คิดเป็น 51.2%*
• ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยอดจำหน่ายสะสม5,374 คัน
นอกจากความสำเร็จด้านยอดจำหน่ายในปี 2563 ฮอนด้า ยังได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA – Thailand Automotive Quality Award) ด้านภาพลักษณ์ดีเด่น ประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ (Outstanding Brand Image for Trusted Brand) ซึ่งได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2563 พร้อมด้วยรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ในรถยนต์ 4 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ฮอนด้า ซีวิค ฮอนด้าซีอาร์-วี ใหม่ และฮอนด้า บีอาร์-วี
สำหรับการดำเนินงานในปี 2564 ฮอนด้ายังคงเดินหน้ายกระดับ ผลิตภัณฑ์ การขาย และงานบริการต่างๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาด และความต้องการของผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพในส่วนโชว์รูม และศูนย์บริการยังคงยึดหลักมาตรการด้านสุขอนามัยตามแนวทางของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งนำเสนอบริการออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าในการเข้ารับบริการ เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal ได้แก่
Online Service Booking ระบบนัดหมายเพื่อเข้ารับการบริการล่วงหน้า ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ฮอนด้า servicebooking.honda.co.th หรือ LINE Honda Thailand Official Account (@Honda-Thailand)
Honda Drop & Go บริการที่ลูกค้าเพียงนำรถมาจอด และฝากกุญแจรถไว้ที่ศูนย์บริการที่นัดหมายเพื่อเข้ารับบริการ โดยลูกค้าสามารถอัปเดตสถานะการเข้ารับบริการผ่านมือถือและชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์
อีกทั้งยกระดับการขายด้วยเว็บไซต์Virtual Experience ที่พร้อมมอบประสบการณ์เสมือนจริงผ่านออนไลน์ ให้ลูกค้าสามารถเป็นส่วนหนึ่งกับกิจกรรมต่างๆ ที่ฮอนด้าจัดขึ้น และเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ลูกค้าสามารถพูดคุยสอบถามข้อมูลต่างๆ กับที่ปรึกษาการขายได้อย่างรวดเร็ว
“ฮอนด้า ต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และการบริการของฮอนด้ามาอย่างต่อเนื่องฮอนด้าจะมุ่งมั่นดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ 2030 โดยจะสร้างสรรค์และพัฒนายนตรกรรมล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและความปลอดภัยแห่งอนาคตที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าและยกระดับการขายและงานบริการเพื่อความพึงพอใจสูงสุด” นายพิทักษ์กล่าวสรุป
หมายเหตุ
* ส่วนแบ่งทางการตลาด และอัตราการเติบโตของยอดขายรถยนต์ปี 2563 ประมาณการณ์โดยรวมการคาดการณ์ยอดขายของรถยนต์บางค่าย