เมื่อเร็วๆ นี้ทีมงาน "กิน เที่ยว ขับ ชิลล์"ภายใต้ความดูแล ของ www.khaorodonline.com ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวแบบขับรถไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักตามสไตล์ของเรา ยิ่งใกล้ช่วงวันหยุด Long weekend หากใครอยากไปเที่ยวแนวชิลล์ เรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ ขับรถแบบไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักแบบนี้ล่ะก็ ในส่วนของเส้นทางกทม.มุ่งสู่จังหวัด นครนายก ก็เป็นอีก 1 สถานการณ์ ที่ตอบโจทย์มากๆ
ทริปนี้ ออกเช้ากันนิด เช็คอินจุดแรกที่ "เขาช่องลม" ตั้งอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล เดินทางเที่ยวได้ตลอดทั้งปี บรรยากาศก็จะแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล ซึ่งเราไปช่วงปลายเดือน พ.ค. ก็จะเขียวๆ สดใส แนะนำให้นั่งเรือช่วงเช้าน่าจะดีที่สุดแดดกำลังดี สำหรับค่าเช่าเรือก็จะมีแบบเหมาๆ ที่เหมาะไปกันเป็นหมู่คณะ หรือถ้าไปกันแค่ 2-3 คน ก็สามารถไปจอย กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ได้เช่นกัน ช่วงที่เราไปน้ำยังไม่เยอะมากดังนั้นการเดินขึ้น-ลงเรือ อาจจะต้องเดินบันไดกว่า 250 ขั้น โดยตอนนี้ ก็มีจุดกางเต๊นท์ระหว่างทางเดินบันได 2 จุด เพื่อให้พักพอหายเหนื่อยแล้วลุยกันต่อ
จากนั้นเราขับรถเดินทางมาแวะพักทานอาหารกลางวันกันที่ ร้านชมนก Cafe & Restaurant คาเฟ่ที่มีดีไม่ใช่แค่อาหาร เครื่องดื่ม ยังมีน้องนกซันคอร์นัวให้ได้ชม และสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด พร้อมกับน้ำตกและปลาคาร์ฟที่แวกว่ายกันเป็นฝูง โดยทางร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งตามความชอบเลยค่ะ ทั้งโซนห้องแอร์ และ โซนโอเพ่นแอร์
อิ่มท้องแล้ว เราก็เดินทางมาต่อที่ น้ำตก วังตระไคร้ เพื่อมาสัมผัสความสดชื่นของน้ำตก สักหน่อยแวะเช็คอินกันต่อ ที่ร้าน มนตรา คาเฟ่ (Montra cafe) เป็นคาเฟ่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ร้านตกแต่งแนวบ้านไม้สไตล์โมเดิร์นเพื่อให้รู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติความสวยงาม ทางร้านมีบริการทั้ง อาหารและเครื่องดื่ม ให้ได้ลิ้มลอง ซึ่งต้องบอกเลยว่า เมนูเครื่องดื่มที่นี่เข้มข้น รสชาติหอมกลมกล่อม
และเราก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักที่ At Rice Resort ห้องพักที่นี่มีหลากหลายแบบหลายสไตล์ให้เลือกเพื่อตอบโจทย์กับคนที่เข้าพัก ไม่ว่า จะเป็นแบบ ครอบครัว เพื่อน หรือ คู่รัก คืนนี้ เราพักแบบ Deluxe Poll Access Twin & King
หลังจากเก็บกระเป๋า พักอาบน้ำเพิ่มความสดชื่นกันแล้ว เราก็ไปทานอาหารค่ำที่ร้านบ้านนายโอ ร้านอยู่ไม่ไกลจากที่พัก อยู่ริมถนนทางไปเขื่อนขุนดาลฯ ตามพิกัด GPS มาไม่มีหลงทางจ้า ร้านบรรยากาศดีร่มรื่น ดูเป็นธรรมชาติเหมือนมานั่งทานข้าวบ้านเพื่อน บางวันมีดนตรีสดแนวย้อนยุค 80-90 ฟังแบบสบายๆ อาหารแนะนำของที่นี่ ไก่ยอดหญ้า ปลาทอดสมุนไพร ต้มยำปลา ฯลฯ
เช้าวันที่ 2 เราออกสายกันนิดนึง เพื่อเดินทางไปจุดหมายถัดไป ขับรถมุ่งหน้าไปสู่ เขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี เช็คอินจุดแรก ขอไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันสักหน่อย เราไปกราบสักการะบูชา พระพุทธทวารดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บริเวณอุทยานเขาอีโต้ จากนั้นเดินทางไปที่ จุดชมวิว "ผาหินซ้อน "เส้นทางการขับรถนั้นถือว่า สะดวกสบาย เป็นทางลาดยางคดเคี้ยวบ้างบางจุด และไปนั่งเล่นกันต่อที่น้ำตกเขาอีโต้ ซึ่งช่วงนี้ฝนเริ่มตกทำให้บรรยากาศสดชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ
ช่วงเที่ยงเรามาแวะทานข้าวกันที่ร้าน ปลาทูคิทเช่น ร้านนี้มีเมนูปลาให้เลือกหลากหลายและยังมีเครื่องดื่มของหวานให้บริการ แถมมีมุมน่ารักๆไว้ให้ชาวโซเชียลถ่ายรูปกันอีกด้วยค่ะ
จากนั้น เราไปกันต่อ ที่ ชุมชน อบต. ดงบัง อ.ประจันตคาม โดยเราได้นั่งรถซาเล้งรอบหมู่บ้าน ชมต้นกระบก ซุ้มป่าไผ่ แม่ตะเคียน ป่าชุมชน วัดบ้านโนน บ้านตม โบสถ์เก่าหลวงพ่อมืด และปิดท้ายวันนี้เราได้เข้าพักที่ สยามดาษดา เขาใหญ่ รีสอร์ท ไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและขุนเขา
วันที่ 3 ก่อนจะกลับเข้ากรุงเทพฯ ก็ขอแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันสักหน่อย โดยเราไปแวะที่ สวนพันพล ปราจีนบุรี ซึ่งที่นี่ มีทั้ง ทุเรียนและมังคุด สดๆ จากสวนกลับไปเป็นของฝากกันจ๊ะ
เขียนโดย POM SUN
ภาพโดย POM SUN