เป็นที่ทราบกันดีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท สตาร์แฟลกซ์ จำกัด หรือ เบนซ์ สตาร์แฟลก ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการได้ประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่โดยการสยายปีกทุ่มงบกว่า 75 ล้าน เปิดตัว Benz Star Flag AMG Performance Center ใหญ่ที่สุดในเอเชียซึ่งรายละเอียดของข่าวทางบริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ได้มีการจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ตามนายชยุส ยังพิชิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ผู้ที่หลากหลายคนรู้จักกันดีในวงการแข่งขันรถยนต์ นักธุรกิจชื่อดังในแวดวงยานยนต์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่รักความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งคร่ำหวอด หลงใหลรวมถึงสนใจในเรื่องยานยนต์เป็นอย่างมากโดยได้มีความตั้งใจทุ่มเทในการบริหารงาน บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ให้สามารถครองใจลูกค้าจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของคนในวงการยานยนต์ และตรงกับเจตนารมณ์ในการก่อตั้งบริษัท สตาร์แฟลก จำกัดในครั้งแรกที่ได้เริ่มขี้นเมื่อปี 2556 โดยพร้อมตั้งเป้าหมายที่จะเป็นโชว์รูม และศูนย์บริการครบวงจรบนพื้นที่ขนาดใหญ่ในระดับต้นๆ ของภาคพื้นเอเชียในการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับเวิลด์คลาสนั่นเอง
จากวันนั้นถึงวันนี้ เบนซ์สตาร์แฟลกประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมามียอดขายเติบโตอย่างเห็นได้ชัดเจนในทุกปี และรักษาความเป็นอันดับ 1 ในด้านยอดขายถึง 5 ปีซ้อน โดยในปี 2561 มียอดขายเติบโตมากกว่า 1,200 คันส่วนปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 โดยประมาณการจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้ที่เติบโตเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งธุรกิจที่ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ได้ใส่ใจ และให้ความสำคัญไม่แพ้กันนั่นก็ คือ ธุรกิจซื้อขายรถมือสอง หรือ ยูสคาร์ ของ สตาร์แฟลก ซึ่งปัจจุบันสามารถทำรายได้ให้กับทางสตาร์แฟลกไม่น้อยทีเดียว ซี่งอาจเรียกได้ว่าทำยอดขายไม่น้อยหน้ารถป้ายแดงเลยก็ว่าได้
“ทั้งสายงานธุรกิจรถมือสอง และ รถป้ายแดง เราให้ความสำคัญกับลูกค้าเท่าเทียมกัน และเราพร้อมที่จะให้บริการเหนือระดับเต็มรูปแบบครับ บริษัท สตาร์แฟลก ของเราโชคดีที่มีคุณวิกรานต์ อมาตยกุล นักบริหารมืออาชีพที่เข้ามาบริหารงานที่สตาร์แฟลกในฐานะรองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ซึ่งปัจจุบันท่านยังดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการกลุ่มสายงานผลิตภัณฑ์ และการตลาด บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ด้วยดังนั้นจึงเป็นจุดแข็งที่เราเข้าถึงการตลาด และบริการที่ดีที่ทำให้ลูกค้าประทับใจนั่นเองครับ”นายนายชยุส กล่าวกับ“เว็ปไซต์ข่าวรถออนไลน์”
ด้านคุณวิกรานต์ อมาตยกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด เปิดเผยกับ “เว็ปไซต์ข่าวรถออนไลน์”ถึงกลยุทธ์ของสตาร์แฟลกในการจำหน่ายรถมือสอง หรือ ยูสคาร์ ว่า สำหรับทิศทางการจำหน่ายรถมือสองของสตาร์แฟลกนั้นยังมีแนวโน้มที่สดใสต่อเนื่องโดยในปี 2561 ที่ผ่านมาเราปิดยอดจำหน่ายรถมือสองทั้งปี 80 คัน แต่หากดูในปี 2562 นี้ แค่เพียงครึ่งปีเราสามารถทำยอดได้สูงถึง 78 คันแล้วโดยคาดว่าในสิ้นปี 2562 เราจะสามารถทำยอดขายรถมือสองให้สูงถึง 120 คันนั่นเอง
“ตั้งแต่ต้นปี 2562 แม้ภาพรวมธุรกิจรถมือสองจะชะลอตัว แต่ธุรกิจรถมือสองของสตาร์แฟลกยังเติบโตสดใส ปัญหาปัจจุบันของเราไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจะปล่อยขายรถมือสองไม่ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า รถของเราไม่พอขายมากกว่า คือ ตอนนี้เรามีสินค้าไม่พอขายจริงๆ ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่เราจะต้องรีบมาวางแผนในการเพิ่มช่องทางการหารถมือสองเกรดเอ คุณภาพดี เพื่อนำมาเสนอลูกค้าอย่างเร่งด่วนครับ”นายวิกรานต์ กล่าว
นายวิกรานต์ กล่าวต่อว่า สำหรับสัดส่วนการรับรถเข้ามาจำหน่ายจะแบ่งเป็น รถ Demo เช่น รถโชว์ รถสาธิต รถตัวอย่าง ประมาณ 35% รถลูกค้านำมาเทิร์นประมาณ 35% และอีก 30% จะมาจากบริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่ารถที่น่าเชื่อถือรายรายใหญ่ของเมืองไทย โดยรถเช่าที่เรานำมาขายกับลูกค้าผ่านศูนย์เบนซ์ สตาร์แฟลกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นรถประจำตำแหน่งของผู้บริหารเกือบทั้งสิ้น
“เกี่ยวกับธุรกิจรถมือสองของเบนซ์สตาร์แฟลก เราค่อนข้างโชคดีว่า เรามีพันธมิตรหลัก คือ บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถเช่า รายใหญ่ของเมืองไทย การรับรถเช่าไทยเร้นท์อะคาร์ มาจำหน่ายต่อลูกค้าผ่าน เบนซ์สตาร์แฟลก นั้นเราจะคัดแต่รถคุณภาพเกรดเอ รถคุณภาพดีๆ รถที่เคยเป็นรถประจำตำแหน่งผู้บริหารมาจำหน่าย รถเช่าแบบนี้ลูกค้าจะทราบดีว่า เป็นรถที่ดูแลดี เข้าศูนย์บริการเป็นระยะ และก่อนจะนำมาจำหน่ายเราก็ต้องมีการตรวจเช็คจากศูนย์บริการของเบนซ์อย่างละเอียดกว่า 70 รายการ ดังนั้นลูกค้าจึงเชื่อมั่นเรา และบอกต่อกันถึงคุณภาพที่ดีของเรานั่นเองครับ อย่างไรก็ตามเราขอย้ำ และยืนยันว่า รถของเราจะมีทีมงานตรวจสอบมาอย่างดีโดยรถที่นี่ไม่มีชนหนัก ไม่มีพลิกคว่ำ ไม่เกิดอุบัติเหตุหนัก ไม่เกิดไฟไหม้ และไม่จมน้ำมาแน่นอนครับ”นายวิกรานต์ กล่าวต่อว่า
นายวิกรานต์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับราคาจำหน่ายรถที่สตาร์แฟลก เราเองต้องยอมรับว่าจะมีราคาสูงกว่าราคาตลาด หรือ สูงกว่ายอดจัดไฟแนนซ์ ประมาณ 10-15% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะต้องมีการวางเงินดาวน์ด้วย แต่สิ่งสำคัญ คือ ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยที่ถูกใกล้เคียงกับรถป้ายแดง รถบางคันวิ่งไม่ถึง 2,000 กม. รถบางคันยังไม่ได้จดทะเบียนด้วยซ้ำ ซึ่งนอกจากลูกค้าจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำแล้วยังได้รับการประกันคุณภาพตัวรถในลักษณะใกล้เคียงกับรถป้ายแดงอีกด้วย
“พูดกันตรงๆ ตรงนี้เลย รถมือสองของเราจะแบ่งสัดส่วนเป็นดังนี้ 70% ที่มาวางจำหน่ายจะเป็นรถใช้งานไม่ถึง 1 ปี ส่วนอีก 30% ที่เหลือจะเป็นรถที่ใช้งานเกิน 2 ปี แต่รถที่เกิน 2 ปีจะได้มาจากบริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท รถเช่าที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถผู้บริหาร และ รถที่เข้าศูนย์บริการตามระยะนั่นเองครับ อย่างที่ถามผมในตอนแรกว่า ตลาดรถมือสองซบเซาจะมีผลกับธุรกิจรถมือสองของสตาร์แฟลก หรือไม่ ผมจึงตอบได้ว่า ไม่มีผลครับ เพราะดูจากยอดจำหน่ายรถมือสองที่เพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มจะสูงกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งความโปร่งใสของการรับรถมาจำหน่ายจึงเป็นที่มาของความไว้ใจที่ลูกค้ามอบให้เรา และนำมาสู่การวัดผลที่ยอดจำหน่ายว่าลูกค้ายังตอบรับรถมือสองของเรานั่นเองครับ”นายวิกรานต์ และเปิดเผยอีกว่า
สตาร์แฟลกพร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจรถมือสองเต็มที่ไม่แพ้รถป้ายแดงเช่นกัน แต่ก็ต้องรอแนวทาง และนโยบายจากทาง บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัท แม่ ที่ควบคุมผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั้งระบบด้วยเช่นกันครับ
นายวิกรานต์ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับโซนรถมือสองของสตาร์แฟลก จะอยู่บริเวณอยู่บริเวณชั้น 1 จอดรถโชว์ได้ 8-15 คัน โดยมีออฟฟิตพนักงานขายคอยรอบริการท่านอยู่ชั้น 1 ครับ นอกจากนี้ ทางสตาร์แฟลก ยังมีที่จอดรถรอการจำหน่ายอยู่บริเวณตึกหลังของบริษัทด้วย ดังนั้นจึงอยากให้ทุกท่านมาสัมผัสทางเลือกในการให้บริการของเราได้ครับ เราพร้อมต้อนรับท่าน และยินดีที่จะรับท่านมาเป็นครอบครัวของสตาร์แฟลกของเราต่อไปครับ
#########