ยุค 2019 บางคนอาจจะเรียกยุคนี้ว่าเป็นยุค“เทคโนโลยี ดิจิทัล ดิสรัปชั่น” โดยปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจแทบทุกวงการ!!! หลายๆ ธุรกิจที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทันอาจต้องพ่ายแพ้กับเทคโนโลยีรถจนต้องปิดกิจการลงไปอย่างเงียบๆ แต่ทั้งนี้ผู้ที่มีใจที่คิดจะต่อสู้ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงบนโลกยุคนี้เท่านั้นที่จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ โดยเขาเหล่านี้จะนำสถานการณ์ดังกล่าวพลิกผันมาเป็นโอกาสเพื่อดันตัวเองก้าวสู่เส้นทางแห่งชัยชนะได้อย่างสมภาคภูมิ
วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ หรือ คุณหมู ซึ่งปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งนายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว โดยพูดคุยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวว่า ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับสถานการณ์ครั้งนี้ และธุรกิจรถมือสองทั้งระบบจะเป็นเช่นไรเมื่อเทคโนโลยียานยนต์กำลังเดินหน้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
คุณวิสุทธิ์ กล่าวกับ"เว็ปไซต์ข่าวรถออนไลน์”ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้เข้ามาสู่อุตสาหกรรมรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกทั้งระบบ ซึ่งประเทศไทยก็หลีกเลี่ยงในความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ ด้วยปัจจัยด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อม รถยนต์ไฟฟ้าจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลก และประเทศไทย
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆ นี้ ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เดินทางไปที่มณฑลเซินเจิ้น สาธารณะรัฐประเทศจีน เพื่อเยี่ยมชมโรงงานผลิตแบตเตอรี่ และผลิตรถไฟฟ้า BYD ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก เพื่อศึกษาการพัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าในจีน และความเป็นไปได้ในการลงทุนของอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าของจีนในประเทศไทย ซึ่งเรามองว่า อุตสาหกรรมรถไฟฟ้าในจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะขยายตลาดเข้ามาสู่ตลาดอื่นๆ ใน SE Asia ในระยะเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน
คุณวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าไทยจะไม่ได้เป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้าอย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยที่ไม่เกื้อหนุนหลายๆ ด้าน แต่รถไฟฟ้าจะถูกนำเข้ามาในสิทธิพิเศษของ AFTA โดยฐานการผลิตน่าจะอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของเรา อุตสาหกรรมรถยนต์ใหม่ น่าจะต้องมีการปรับตัวอยู่พอสมควร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า นโยบายภาครัฐจะยังคงส่งเสริมนักลงทุนปัจจุบันมากน้อยแค่ไหน หรือ จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับรถไฟฟ้าอย่างไร อุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วก็ต้องคอยติดตามนโยบายของภาครัฐอย่างใกล้ชิด
“เนื่องจากประเทศไทยเป็น hub การผลิตรถยนต์สันดาป และมี SupplyChain ของอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปจากประเทศญี่ปุ่นมาเป็นระยะเวลายาวนาน การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตจึงเป็นไปได้ยากมาก และสำหรับนักลงทุนจีน การลงทุนโครงสร้างอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าในประเทศเกิดใหม่ ย่อมมีความง่ายกว่าการรื้อโครงสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยเรา จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ฐานการผลิตรถไฟฟ้าจากจีนน่าจะอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรา”นายวิสุทธิ์ กล่าว
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันเทคโนโลยีของรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแทนที่รุ่นรถรุ่นเก่าๆรถรุ่นเดิมๆ เป็นระยะๆ ผู้ประกอบการรถมือสองส่วนมาก ได้มีการปรับตัวเองเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่แล้ว เพราะปัจจุบันเราสามารถศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน และสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วก็ได้ส่งเสริมการพัฒนาผู้ประกอบการด้านการจัดอบรมสัมมนา เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการในทุกๆ ปี รวมทั้งได้เพิ่มเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าให้กับสมาชิกในการต่อยอดธุรกิจ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดดังนั้นจึงไม่น่าห่วงว่าผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วจะตามเทคโนโลยีไม่ทันแต่อย่างไร
นายวิสุทธิ์ ยังให้ความเห็นถึงรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮบริด ว่า สำหรับตลาดรถยนต์เมืองไทยบ้านเรา รถยนต์ไฮบริดก็ยังเป็นความต้องการของลูกค้าบางกลุ่ม แต่เป็นที่ทราบว่าเมื่อรถประเภทนี้เข้าสู่ตลาดรถมือสองแล้วราคาจะตกมาก อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการรถมือสองไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคาแต่อย่างไร แต่ราคาจะถูกกำหนดจากตลาด โดยตลาดรถมือสองทั้งระบบจะเป็นผู้กำหนดราคาบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้า
ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาดังกล่าว ปัจจัยหลักอยู่ที่ผู้ผลิตต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว และผู้บริโภคว่า รถยนต์ไฮบริดจะมีความคงทน และมีค่า Maintainance หรือ ค่าซ่อมแซมที่ไม่สูง และต้องทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในสินค้า เมื่อถึงเวลาที่รถเหล่านี้หมุนเวียนมาในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วก็จะมีราคาที่สูง และมีราคาที่ดีตามภาวะตลาด ณ ขณะนั้นนั่นเอง
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันค่ายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนก็ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้เกิด Economy of Scale ในการผลิตแบตเตอรี่ได้ในราคาที่ต่ำลง และมีความทนทานมากขึ้น หากมีความมั่นใจเช่นนี้ คาดว่าราคารถยนต์ไฮบริดจะกลับมาได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วด้วยเช่นกัน
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าว ในตอนท้ายว่า หากคุณถามผมว่า ปัจจุบันธุรกิจรถมือสองต้องการอะไรจากรัฐบาล เราอยากจะแสดงความคิดเห็นว่า ภาครัฐควรให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบอย่างจริงจัง ทั้งในด้านการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐ ด้านกฎหมายในการประกอบธุรกิจ การให้ความสะดวกในการเข้าหาแหล่งทุน รวมถึงสิทธิพิเศษทางภาษี สำหรับผู้ประกอบการ ที่ประกอบธุรกิจโดยสุจริต และถูกต้อง หากรัฐเข้ามาร่วมพัฒนาธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วอย่างจริงจัง อุตสาหกรรมนี้จะกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้อย่างแน่นอน
#########