นายอนุชาติ ดีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจประมูลรถระดับชั้นนำของเมืองไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม และสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ทำให้ตลาดรถยนต์ใหม่ และรถยนต์มือสองปั่นป่วนไปมาก แต่จากเหตุการณ์ที่เริ่มผ่อนคลายขึ้นจะเกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องติดตามกันไปอีกสักระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตามคาดว่าในส่วนยอดขายรถยนต์จากนี้ต่อไปต้องจับตาสถานการณ์กันเดือนต่อเดือน เพราะจากช่วงต้นปีมาจนจบ 5 เดือนแรกของปี 2563 การเปลี่ยนแปลงมีให้เห็นกันจนผู้ประกอบการทั้งผู้ขายรถยนต์ และบริษัทเช่าซื้อรถยนต์ ตลอดจนผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง ปรับกลยุทธ์กันแบบรายวัน การประเมินสถานการณ์ที่ผ่านมาสรุปได้ ดังนี้
1.ตลาดรถยนต์ใหม่ 5 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงประมาณ 38% เมื่อเทียบกันกับช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยภาวะเศรษฐกิจ และการระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการโดยตรง ยอดขายรถยนต์จึงลดลงไปด้วย แม้จะมีความพยายามของภาคเอกชนที่จะให้ภาครัฐลดภาษีสรรพสามิต เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์ แต่เนื่องจากมาตรการดังกล่าวอาจไม่เอื้อ และอาจส่งผลกระทบรอบข้าง โครงการดังกล่าวจึงยังไม่เกิด ทำให้การขายรถยนต์ใหม่อาจชะลอตัวไปอีกระยะหนึ่ง

2.คาดว่ายอดขายรถยนต์ใหม่อาจจะกระเดื้องขึ้นบ้างหลังจากสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย และหลายธุรกิจสามารถจัดงานแสดงสินค้าได้ ประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์โฉมใหม่ และการจัดแคมเปญราคารถใหม่ ซึ่งอาจจะกระตุ้นยอดขายได้บ้าง แต่ไม่มากจนกลับมาเป็นเหตุการณ์ปกติ
3.จากมาตรการการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เช่าซื้อของสถาบันการเงิน เมื่อช่วงต้นปี 2563 คาดว่าน่าจะมีลูกหนี้มากกว่า 35% ของพอร์ตเช่าซื้อ เข้าสู่กระบวนการยืดหนี้ออกไปตามที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนด ทำให้คุณภาพลูกหนี้ NPL ลดลง แต่สถาบันการเงินที่ทำเช่าซื้อย่อมขาดรายรับจากค่างวดและดอกเบี้ยรับ และคาดว่ามาตรการที่ ธปท. ต้องการให้ช่วยเหลือลูกหนี้ โดยการปรับโครงสร้างหนี้อีกระลอกในเดือนกรกฏาคม 2563 อาจทำให้รายรับของบริษัทเช่าซื้อได้รับผลกระทบต่อเนื่องและยังเป็นปัจจัยอีกหนึ่งประการที่ทำให้ความเข้มการให้งวดเช่าซื้อยังคงอยู่

4.จากสถานการณ์ดังกล่าวผู้ประกอบการรถยนต์มือสองได้รับผลกระทบเช่นกันโดย ด้านรถยนต์ที่เข้าสู่ระบบการขายน้อยลง เพราะลูกหนี้ยังสามารถใช้รถยนต์ได้แม้ความสามารถในการผ่อนลดลง กล่าวคือการยึดรถยนต์ที่เกิดจาก NPL จะลดลง ส่งผลให้ราคารถยนต์มือสองปรับตัวขึ้นประมาณ 2-3% เพราะ Demand มากกว่า Supply
5.สิ่งที่ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองเผชิญในช่วงเวลานี้คือ ความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการให้สินเชื่อจะเข้มขึ้น การให้เช่าซื้อต้องเป็นลูกค้าที่มีเงินดาวน์ประมาณ 20% และไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้การสนับสนุนจากสถาบันการเงินได้ยากขึ้น กล่าวคือรถมีการขายแต่จัดไฟแนนซ์ได้น้อย

6.การปรับตัวของผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วช่วงนี้ จึงต้องทำตลาดให้กว้างขึ้นทั้งขายตรงและการขายออนไลน์ แม้จะมีกำไรลดลงก็ต้องขายฐานลูกค้าไปสักระยะก่อนจนกว่าวิกฤติจะผ่อนคลายขึ้น
ดังนั้นแม้การคลายล็อคดาวน์ลงแล้ว และความกังวลว่าจะเกิดการระบาดระลอกใหม่หรือไม่ ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ยังคลายกังวลไม่ได้ เพราะปัจจัยที่แก้ได้ด้านหนึ่งก็อาจส่งผลกระทบอีกด้านหนึ่งอย่างไรก็ตามสัญญาณที่ดีที่ยังคงมีอยู่ ถ้าผู้ประกอบการวางแผนการตลาดให้สมดุลและประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา
#########